ประวัติคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ |
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจเป็นหนึ่งในสี่คณะที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เมือวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๐๙ โดยคณะพัฒนาการเศรษฐกิจได้แยกตัวมาจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) ตามพระประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังความตอนหนึ่งในพระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๓ ณ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
“...ตามที่อธิการบดีกล่าวถึงการจัดตั้งสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ว่ามีความเกี่ยวข้องอยู่กับข้าพเจ้านั้น ขอกล่าวเสริมว่า เดิมทีเดียวข้าพเจ้าตั้งข้อคิดเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจต่าง ๆ จะต้องอาศัยข้อมูลที่ถูต้องเป็นหลัก และจะต้องใช้นักสถิติที่มีความรู้ความสามารถข้้นสูงเป็นผู้ปฏิบัติในประเทศไทยนั้น นักสถิติดังกล่าวยังหาได้น้อย ถ้าจะหาให้ได้เพียงพอก็จะต้องจัดส่งนักสถิติออกไปศึกษา ณ ต่างประเทศ ให้เขามีโอกาสเข้าศึกษาเพิ่มเติมและนำความรู้มาใช้ประโยชน์ เมื่อได้แสดงความคิดนี้แก่นายเดวิด รอกกิเฟลเลอร์อีก นายเดวิด รอกกิเฟลเลอร์ ให้ความเห็นว่า น่าจะให้ผู้เชี่ยวชาญมาสำรวจสภาวะเศรษฐกิจ และมาทำการสอนในประเทศไทย จะได้ประโยชน์ยิ่งกว่าส่งคนออกไปต่างประเทศ แล้วนายเดวิด รอกกิเฟลเลอร์ เลือกเฟ้นหานักเศรษฐกิจและนักบริหารที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา คือดอกเตอร์ สเตชี เมย์ ให้เข้ามาช่วยเหลือ ดอกเตอร์ สเตชี เมย์ เข้ามาพบข้าพเจ้าและมาสำรวจแล้วทำรายงานเสนอว่า รัฐบาลควรดำเนินการอย่างไรในการจัดตั้งสถาบันการศึกษาที่ต้องการ ที่สุดเมื่อรัฐบาลรับไปดำเนินการก็ได้รับความร่วมมือช่วยเหลือจากมูลนิธิฟอร์ดอีกทางหนึ่ง และตั้งสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์นี้ขึ้นได้สำเร็จ เป็นสถานศึกษาขั้นสูงเพื่ออบรมวิชาเศรษฐกิจ ตลอดจนวิชาการบริหาร สำหรับผู้ที่จะมีหน้าที่พัฒนการเศรษฐกิจของประเทศ นับเป็นความสำเร็จที่น่ายินดีอย่างยิ่ง...” |
พัฒนาการของหลักสูตร |
๒๕๐๙
|
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ ได้ก่อตั้งขึ้นมาพร้อมกับการเปิดการเรียนการสอนเพียงหลักสูตรเดียว คือ หลักสูตรพัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิตทางพัฒนาการเศรษฐกิจ โดยเป็นหลักสูตรที่แตกต่างไปจากหลักสูตรปริญญาโททางเศรษฐศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทยเนื่องจากเน้นในเรื่งการพัฒนาเศรษฐกิจโดยเฉพาะ ซึ่งหลักสูตรนี้ได้แบ่งออกเป็น ๕ ภาควิชา คือ ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ประยุกต์ เศรษฐศาสตร์การเงินและการคลัง การวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และเศรษฐศาสตร์เชิงปริมาณ |
๒๕๑๑ |
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ ได้ถ่ายโอนหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนาการเศรษฐกิจให้คณะพัฒนาการเศรษฐกิจเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งผู้ที่เข้ารับการอบรม ได้แก่ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานเอกชน เพื่อเร่งรัดการพัฒนาเศรษฐกิจอ่างเต็มรูปแบบ |
๒๕๒๒ |
หลักสูตรพัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต ทางพัฒนาการเศรษฐกิจได้รับการปรับปรุงครั้งแรกโดยเพิ่มวิชาเอกเป็น ๑๐ วิชา ประกอบด้วย การวางแผนภาคและเมือง การวางแผนเศรษฐกิจ การวิเคราะห์และประเมินโครงการ เศรษฐกิจระหว่างประเทศ เศรษฐมิติ เศรษฐศาสตร์การเกษตร เศรษฐศาสตร์การคลัง เศรษฐศาสตร์การเงิน เศรษฐศาสตร์ประชากรและทรัพยากรมนุษย์ และเศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรมและแรงงาน |
๒๕๒๕ |
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจได้ร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จัดอบรมหลักสูตรต่างๆ แก่ผู้ที่สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หล้กสูตที่เปิดสอนให้กับผู้สนใจชาวไทยซึ่งมีการจัดอบรมอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ หลักสูตรการวิเคราะห์และประเมินโครงการเพื่อเพิ่มพูนความรู้และความเข้าใจในเรื่อง หลักวิธีการวิเคราะห์โครงการสำหรับการเลือกลงทุนในโครงการลงทุนต่างๆ ในส่วนของความร่วมมือกับต่างประเทศ คณะพัฒนาการเศรษฐกิจได้จัดการอบรมหลักสูตรต่างๆ ดังนี้ หลักสูตร Macroeconomic Management ให้กับประเทศมองโกเลีย หลักสูตร Project Analysis and Management ให้กับเจ้าหน้าที่จากประเทศภูฏานและสหภาพเมียนมาร์ และหลักสูตร Applied Microeconomics ให้กับเจ้าหน้าที่จากประเทศเวียตนาม |
๒๕๓๒ |
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจได้เปิดสอนภาคพิเศษสำหรับหลักสูตรพัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต ทางพัฒนาการเศรษฐกิจและได้เปิดสอนภาคพิเศษจนถึงปี ๒๕๓๓ เท่านั้นเนื่องจากคณะได้ทำการเปิดหลักสูตรอื่นเป็นการทดแทนซึ่งตอบสนองกับความต้องการของนักศึกษาภาคพิเศษมากกว่า |
๒๕๓๓ |
หลักสูตรพัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต ทางพัฒนาการเศรษฐกิจได้รับการปรับปรุงอีกครั้งโดยเพิ่มวิชาเอกอีก ๑ วิชา คือ เศรษฐศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม |
๒๕๓๕ |
หลังจากที่หลักตรแรกเปิดการเรียนการสอนได้ ๒๖ ปี คณะพัฒนาการเศรษฐจึงทำการเปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ธุรกิจเพิ่มขึ้น ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ ซึ่งนับเป็นแรกในบรรดามหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐที่เปิดสอนหลักสูตรนี้ในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตมหาบัณฑิตให้มีความรู้และความสามารถในการนำเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการวิจัยและการบริหารจัดการทางธุรกิจ โดยมีสาขาวิชาเอกประกอบไปด้วย การวิเคราะห์และจัดการโครงการ ธุรกิจการเกษตร ธุรกิจการเงิน ธุรกิจระหว่างประเทศ ธุรกิจอุตสาหกรรม และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ |
๒๕๔๑ |
หลักสูตรพัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต ทางพัฒนาการเศรษฐกิจได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (พัฒนาการเศรษฐกิจ) และเปลี่ยนชื่อปริญญาจาก พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต ทางพัฒนาการเศรษฐกิจ เป็น เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (พัฒนาการเศรษฐกิจ) และอักษรย่อจาก พบ.ม.(พัฒนาการเศรษฐกิจ) เป็น ศ.ม.(พัฒนาการเศรษฐกิจ) |
๒๕๔๔ |
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจได้ปรับปรุงหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ โดยให้มีสาขาวิชาเอกประกอบไปด้วย การวิเคราะห์โครงการ เศรษฐศาสตร์ธุรกิจการเงิน เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ และเศรษฐศาสตร์แรงงาน |
๒๕๔๗ |
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจเริ่มเปิดการสอนในระดับดุษฎีบัณฑิตภายใต้หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์) หลักสูตรนานาชาติเพื่อพัฒนาทักษะความรู้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ในระดับสูง |
๒๕๕๑ |
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจได้ตระหนักถึงความสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นของตลาดการเงินในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้เริ่มเปิดสอนหลักสูตรเศรษฐศาสตร์การเงิน ซึ่งเป็นหลักสูตรลำดับที่สามของคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ โดยมีสาขาวิชาเดียว คือ เศรษฐศาสตร์การเงิน นอกจากนี้หลักสูตรเศรษฐศาสตร์ธุรกิจได้จำแนกสาขาวิชาเอกใหม่ซึ่งประกอบไปด้วย การวิเคราะห์โครงการ เศรษฐศาสตร์ธุรกิจระหว่างประเทศ เศรษฐศาสตร์ธุรกิจการเงิน เศรษฐศาสตร์การจัดการธุรกิจ ทั้งนี้เนื้อหาหลักสูตรมุ่งเน้นสร้างความเข้าใจในทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ วิธีการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ รวมทั้งการประยุกต์ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เชิงปริมาณ เพื่อองค์กรธุรกิจเอกชน ผู้ประกอบการ และธุรกิจนำเข้าและส่งออก |
๒๕๕๔ |
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจได้เริ่มเปิดสอน หลักสูตรเศรษฐศาสตร์เพื่อการบริหารโดยมีความมุ่งหวังในการตอบสนองกับความต้องการความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นในหลายภาคส่วนสำหรับนักบริหารทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน |
๒๕๕๖ |
หลักสูตรเศรษฐศาสตร์ (พัฒนาการเศรษฐกิจ) ได้ถูกเปลี่ยนชื่อหลักสูตรเป็น หลักสูตรเป็นหลักสูตรเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต |
๒๕๕๗ |
หลักสูตรเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต ได้เริ่มมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ |
หลักสูตรที่เปิดสอนในปัจจุบัน |
เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์)
|
หลักสูตรเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์) มุ่งเน้นสร้างความเข้าใจในทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ การวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ และวิธีการใช้เครื่องมือการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เพื่อประยุกต์ใช้ในองค์กรภาครัฐ องค์กรธุรกิจเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรสาธารณประโยชน์ ซึ่งมหาบัณฑิตทางเศรษฐศาสตร์จะมีความรู้และความเข้าใจการทำงานของระบบเศรษฐกิจและบทบาทของรัฐบาลที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจ มีทักษะทางวิชาการเศรษฐศาสตร์ และการประยุกต์ใชในการวิเคราะห์ วิจัย มีศักยภาพในการเพิ่มพูนความรู้ไปตามพลวัตของการเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจโลก และมีจริยธรรมในทางวิชาการและการประกอบอาชีพ |
เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ)
|
หลักสูตรเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ) มีการเปิดสอนในเวลาราชการตั้นแต่ ๒๕๓๕ และได้เปิดสอนภาคพิเศษในปีต่อมา โดยมีการปรับปรุุงหลักสูตรให้ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานเน้นการพัฒนาบุคลากรในสายอาชีพต่างๆ ดังนั้น หลักสูตรเศรษฐศาสตร์ธุรกิจจึงมุ่งเน้นสร้างความเข้าใจทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ และวิธีการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ รวมทั้งการประยุกต์ใสเครื่องมือวิเคราะห์เชิงปริมาณเพื่อองค์กรธุรกิจเอกชน องค์กรภาครัฐและองค์กรสาธารณประโยชน์ |
เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์การเงิน)
|
หลักสูตรเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์การเงิน) มีการเปิดสอนในเวลาราชการตั้นแต่ ๒๕๕๑ โดยมุ่งเน้นในการจัดสรรทรัพยากร (เงินทุน) ที่มีอยู่อย่างจำกัด ภายใต้ความเสี่ยง และความไม่เท่าเทียมกันของข้อมูลข่าวสาร ดังนั้น เศรษฐศาสตร์การเงินจึงเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์กิจกรรมในตลาตการเงินซึ่งได้แก่ ตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดตราสารอนุพันธ์ ตลอดจนกิยกรรมการจัดหาเงินทุนของกิจการต่างๆ ซึ่งจุดเด่นของหลักสูตรเศรษฐศาสตร์การเงินเป็นการผสมผสานของ ๓ สาขาวิชาหลัก ได้แก่ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ ทฤษฎีทางการเงิน และเครื่องมือทางเศรษฐมิติเข้าด้วยกัน เพื่อผลิตบุคลากรทางการเงินที่สามารถเชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาค ตลาดทุน ตลาดเงิน ทั้งในและระหว่างประเทศ และสามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ และตัดสินใจทางการเงินได้อย่างเหมาะสม |
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์)
|
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณทิต สาขาวิขาเศรษฐศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ) เป็นหลักสูตรที่ออกแบบสำหรัรบอาจารย์ นักวิชาการในมหาวิทยาลัย ผู้บริหารหรือนักวิจัยในหน่วยงาน ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนที่ต้องการนำความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ขั้นสูงมาใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน จึงมีลักษณะของการมุ่งเน้นสร้างความเข้าใจคงค์ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ขั้นสูงที่สำคัย ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ขั้นสูง และวิธีการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ขั้นสูง รวมทั้งการประยุกต์ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เชิงปริมาณเพื่อองค์กรภาครัฐและองค์กรธุรกิจเอกชน |
เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์เพื่อการบริหาร)
|
หลักสูตรเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์เพื่อการบริหาร) เป็นหลักสูตรแรกและหลักสูตรเดียวในประเทศไทย ที่ออกแบบขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ที่จำเป็น สำหรับนักบริหารทั้งในภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการและเข้าของกิจการ ที่ต้องการนำความรู้ทางเศรษฐศาสตร์มาใช้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจทางการบริหาร หลักสูตรมีลักษณะของการบูรณาการองค์ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ที่จำเป็นนำหรับนักบริหารรุ่นใหม่ เพื่อสร้างวิสัยทัศน์และเพิ่มมุมมองทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง และเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน |
นอกจากนี้ ผู้สำเร็จการศึกษายังสามารถนำหลักจุลเศรษฐศาสตร์ไปใช้ในการบริหารองค์การ และตัดสินใจด้านต่างๆ เช่น กำหนดกลยุทธ์ององค์การ บริหารการเงินและความเสี่ยง รวมถึงการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันขององค์การในระดับสากล นอกจากนี้นักศึกษาจะได้รับความรู้และพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนองค์การอย่างมีประสิทธิภาพฝ่ายประสบการณ์และมุมมองของผู้บริหารองค์การชั้นนำของประเทศ หลักสูตรระดับปริญญาโทด้านพัฒนาการเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ และเศรษฐศาสตร์การเงิน เศรษฐศาสตร์เพื่อการบริหาร ของคณะมุ่งเน้นการสร้างนักเศรษฐศาสตร์ที่สามารถ ปฏิบัติงานได้ทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์การระหว่างประเทศ นักศึกษาจะได้รับการฝึกฝนให้มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการวิเคราะห์ เศรษฐกิจและการทำวิจัยในหัวข้อและประเด็นปัญหาด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสภาพ ทางธุรกิจของประเทศไทยที่สังคมกำลังให้ความสนใจ ในขณะที่หลักสูตรระดับปริญญาเอกเน้นทั้งการเรียนการสอนและทักษะการวิจัยโดย คณาจารย์ที่มีประสบการณ์ด้านการสอนและการวิจัยทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษามีความพร้อมในงานเชิงวิชาการทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน ขณะเดียวกัน คณะได้ดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ควบคู่กับการจัดการเรียนการสอน เช่น การทำวิจัย, การจัดหลักสูตรฝึกอบรม, สัมมนาวิชาการ, หลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง และการให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ |
จุดเด่นของคณะพัฒนการเศรษฐกิจ |
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจเป็นคณะเศรษฐศาสตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศที่มีคณาจารย์ผู้สอนทั้งหมด สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก โดยคณาจารย์ของคณะต่างมีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการสอนและการวิจัยในหลากหลายสาขา และเนื่องด้วยคณะพัฒนาการเศรษฐกิจเปิดสอนเฉพาะระดับมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิต จึงทำให้สัดส่วนของนักศึกษาต่ออาจารย์ผู้สอนค่อนข้างต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับคณะเศรษฐศาสตร์อื่นๆ ภายในประเทศ นักศึกษาจึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพของการเรียนการสอน และยังสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงทำงานร่วมกับคณาจารย์ของคณะได้อย่างใกล้ชิด |
การสนับสนุนเชิงวิชาการ/ทุนการศึกษา |
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจได้สนับสนุนในเชิงวิชาการและให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีทุนผู้ช่วยอาจารย์ เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานกับอาจารย์ทั้งในด้านงานสอนและงานวิจัย และมีทุนการศึกษาอื่นๆ เช่น ทุนเรียนดี,ทุนค่าธรรมเนียมการศึกษา, ทุนส่งเสริมการศึกษาประเภท ๑ (Full scholarship), ทุนส่งเสริมการศึกษาประเภท ๒ เป็นต้น |
ความร่วมมือกับต่างประเทศ |
คณะพัฒนาการเศรษฐกิจได้มีความตกลงร่วมมือด้านวิชาการกับสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง ในประเทศต่างๆทั่วโลก เช่น ประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น บาห์เรน สวิสเซอร์แลนด์ สวีเดน สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน ออสเตรเลีย และอิตาลี ซึ่งเพิ่มโอกาสในการศึกษาต่อ และการทำวิจัยของนักศึกษา |
วัตถุประสงค์ |
|
|
◊ เพื่อผลิตมหาบัณฑิตให้มีความรู้ความสามารถในการประยุกต์ใช้ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์กับสภาพความเป็นจริงและมีจริยธรรม |
◊ เพื่อศึกษาค้นคว้าและวิจัยเพื่อประโยชน์ในด้านการเรียนการสอน การสร้างค์ความรู้และเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม | |
◊ เพื่อให้บริการวิชาการทางด้านเศรษฐศาสตร์และธุรกิจทีมีคุณภาพแก่สังคม | |
◊ พัฒนาสมรรถนะของคณะพัฒนาการเศรษฐกจในด้านการบริหารจัดการให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล |
ปรัชญาคณะ "คลังสมองทางเศรษฐศาสตร์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ" | |
วิสัยทัศน์ (Vision) |
|
|
◊ "เป็นส่วนหนึ่งของกลไกการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการผลิตบัณฑิตและองค์ความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ที่มีมาตรฐานสากล"
|
พันธกิจ (Mission) |
|
|
๑. ผลิตมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตด้านเศรษฐศาสตร์ด้วยหลักสูตรที่ใช้เกณฑ์มาตรฐานสากล
|
๒. วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
|
|
๓. ให้บริการวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ที่มีคุณภาพเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
|
|
๔. หน่วยงานมีกระบวนการทำงานที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล |